การใช้ “หม้อทอดไร้น้ำมัน” (Air Fryer) ถือเป็นทางเลือกที่ ดีต่อสุขภาพมากกว่า เมื่อเทียบกับการทอดแบบน้ำมันท่วม (Deep Frying) ทั่วไป แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าอาหารที่ทำด้วยหม้อทอดไร้น้ำมันจะ “ดีต่อสุขภาพ” เสมอไป
อ่าวววว แบบนี้คนที่ใช้หม้อทอดไร้น้ำมันคงจะเกิดต่อมสงสัยแล้วแน่นอนครับว่าสุดท้ายแล้วเราจะใช้ต่อไปดีไหมสำหรับหม้อทอด บทความนี้ไขข้อสงสัยให้ครับ จะได้ไม่ต้องกังวล และเดากันเป็นหวยไวไปเรื่อยๆ
หม้อทอดไร้น้ำมัน... ดีต่อสุขภาพจริงหรือ? เจาะลึกข้อดีและข้อควรระวัง
ข้อดี: ทำไมถึงดีต่อสุขภาพมากกว่าการทอดทั่วไป?
ลดปริมาณไขมันและแคลอรี่อย่างมาก
- หม้อทอดไร้น้ำมันทำงานโดยใช้ลมร้อนหมุนเวียน (หลักการเดียวกับเตาอบขนาดเล็กแบบพาความร้อน) ทำให้ผิวด้านนอกของอาหารกรอบโดยไม่ต้องใช้น้ำมันปริมาณมาก บางเมนูอาจไม่ต้องใช้เลย หรือใช้แค่การสเปรย์น้ำมันบางๆ เพียง 1 ช้อนชาเท่านั้น
- งานวิจัยหลายชิ้นระบุว่า การทำอาหารด้วยวิธีนี้สามารถลดปริมาณไขมันและแคลอรี่ได้ประมาณ 70–80% เมื่อเทียบกับการทอดน้ำมันท่วม
ลดความเสี่ยงจากการเกิดสารอะคริลาไมด์ (Acrylamide)
- อะคริลาไมด์เป็นสารก่อมะเร็งที่เกิดขึ้นเมื่ออาหารจำพวกแป้ง (เช่น มันฝรั่ง) ถูกปรุงด้วยความร้อนสูงกว่า $120^\circ\text{C}$ โดยเฉพาะการทอดในน้ำมัน
- มีการศึกษาที่แสดงให้เห็นว่า การใช้หม้อทอดไร้น้ำมันสามารถช่วยลดปริมาณสารอะคริลาไมด์ในมันฝรั่งทอดได้ สูงถึง 90% เมื่อเทียบกับการทอดแบบดั้งเดิม
ช่วยคงคุณค่าทางโภชนาการ
- เนื่องจากหม้อทอดไร้น้ำมันปรุงอาหารด้วยความรวดเร็ว ทำให้สารอาหารบางชนิดที่ไวต่อความร้อน เช่น วิตามินและสารต้านอนุมูลอิสระ มีโอกาสคงอยู่ในอาหารได้มากกว่าเมื่อเทียบกับการต้มหรือการทอดที่ใช้เวลานาน
ความปลอดภัยและสะดวก
- ลดความเสี่ยงจากน้ำมันกระเด็น ไฟไหม้ หรือการสัมผัสกับน้ำมันร้อน ซึ่งปลอดภัยกว่าการทอดในกระทะหรือหม้อทอดแบบน้ำมันท่วมมาก
ข้อควรระวัง: สิ่งที่ต้องคำนึงถึงเพื่อสุขภาพที่ดี
แม้จะมีชื่อว่า “ไร้น้ำมัน” แต่ก็มีข้อควรระวังที่นักโภชนาการย้ำเตือน
ความเสี่ยงของการเกิดสารก่อมะเร็งยังคงอยู่
- Acrylamide: แม้จะลดลง แต่ถ้าปรุงอาหารจำพวกแป้งหรือเนื้อสัตว์ด้วย อุณหภูมิที่สูงเกินไป ($>120^\circ\text{C}$) และเป็นเวลานานเกินไป จนอาหารมีสีน้ำตาลเข้มหรือไหม้เกรียม ก็ยังสามารถสร้างสารอะคริลาไมด์ได้
- สารก่อมะเร็งจากเนื้อสัตว์: เมื่อปรุงเนื้อสัตว์ด้วยความร้อนสูง ไม่ว่าจะใช้น้ำมันหรือไม่ ก็อาจเกิดสารก่อมะเร็งจำพวก Heterocyclic Amines (HCAs) และ Polycyclic Aromatic Hydrocarbons (PAHs) ได้ ดังนั้น ไม่ควรปรุงจนเนื้อสัตว์ไหม้เกรียม
อาหารที่ปรุงยังคงมีไขมันสูง (ถ้าวัตถุดิบไม่ดี)
- หากคุณนำวัตถุดิบที่มีไขมันสูงแต่แรก (เช่น เบคอน, ไส้กรอกแปรรูป, หมูกรอบติดมัน) มาปรุงในหม้อทอดไร้น้ำมัน ไขมันและโซเดียมในวัตถุดิบนั้นก็ไม่ได้หายไปไหน
- หม้อทอดไร้น้ำมันทำให้อาหาร “ทอดน้อยลง” ไม่ใช่ทำให้ “อาหารขยะเป็นอาหารสุขภาพ”
ความเสี่ยงด้านพฤติกรรมการบริโภค
- ผู้บริโภคอาจเกิดความเข้าใจผิดว่าอาหารที่ทำจากหม้อทอดไร้น้ำมันนั้นดีต่อสุขภาพโดยสมบูรณ์ ทำให้ บริโภคอาหารทอดบ่อยขึ้น หรือในปริมาณที่มากขึ้นกว่าเดิม ซึ่งยังคงส่งผลเสียต่อน้ำหนักตัวและสุขภาพโดยรวมได้
ทริคการใช้หม้อทอดไร้น้ำมันให้ดีต่อสุขภาพสูงสุด
- ควบคุมอุณหภูมิและเวลา: พยายามใช้อุณหภูมิไม่สูงจนเกินไป และหลีกเลี่ยงการปรุงอาหารจนสีเข้มหรือไหม้เกรียม
- เลือกวัตถุดิบดี: เน้นวัตถุดิบที่มีไขมันต่ำตามธรรมชาติ เช่น เนื้อปลา, อกไก่, ผัก, หรือมันเทศ แทนการใช้เนื้อสัตว์แปรรูป
- ใช้สมุนไพรช่วย: การเพิ่มสมุนไพรที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ (เช่น พาร์สลีย์, ใบไทม์) ในการปรุงปลาหรือเนื้อสัตว์บางชนิด อาจช่วยลดการเกิดสาร Cholesterol Oxidation Products (COPs) ที่เป็นอันตรายได้
- ควบคุมปริมาณ: ใช้หม้อทอดไร้น้ำมันเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยและไขมันต่ำกว่า แต่ยังคงต้องควบคุมปริมาณอาหารทอด/ย่างที่บริโภคในแต่ละสัปดาห์
สรุป: หม้อทอดไร้น้ำมันเป็นเครื่องมือที่ยอดเยี่ยมในการช่วยลดไขมันและแคลอรี่ในเมนูโปรดของคุณ แต่สุขภาพที่ดีขึ้นจะเกิดขึ้นได้จริงก็ต่อเมื่อ เลือกวัตถุดิบที่มีคุณภาพ และ รู้จักควบคุมปริมาณ ในการบริโภคควบคู่กันไปด้วยครับ
No responses yet